บทความที่ได้รับความนิยม

วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

หัวไชเท้ามีสรรพคุณทางยาอย่างไร

หัวไชเท้ามีสรรพคุณทางยาอย่างไร



หัวไชเท้า

แม้ว่าเกิด แก่ เจ็บ ตายจะเป็นกฎของธรรมชาติ แต่เมื่อนึกถึงรอยย่นบนหน้าผากและตีนกาที่ฟ้องอายุของตัวเอง ความรู้สึกในใจก็ยากที่จะยอมรับเช่นกัน บางคนถึงกับต้องตระเวนไปหาร้านถ่ายรูปที่มีฝีมือแต่งหน้าแต่งผม แต่งตัวให้ดูดี ถึงขนาดถ่ายรูปออกมาแล้วคนในบ้านตัวเองก็จำไม่ได้ว่าเป็นรูปใคร ๆ ทุกปีอยู่แล้ว

แต่รูปถ่ายที่ลงทุนไปมากโขนี้มีประโยชน์ตรงที่เอาไว้ส่องแทนกระจกเท่านั้น เพราะอะไรที่เคยตึงก็เริ่มจะเหี่ยว ที่มีเงินหน่อยก็สามารถพบศัลยแพทย์ตัดโน่นดึงนี่เพื่อให้ดูตึงเหมือนเดิม ยิ่งมีข่าวประโคมถึงสมุนไพรตัวโน้นตัวนี้ช่วยให้ดูสวยดูดีก็ฮือฮากันไม่เลิก

อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ มีนักวิชาการออกมาสัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เกี่ยวกับกวาวเครือว่าสามารถทำให้อวัยวะบางอย่างอึ๋มขึ้น สาวน้อยสาวใหญ่ก็ให้ความสนใจกันไม่น้อยแม้แต่สาววัยทองทั้งหลายก็พยายามเสาะหามากิน ทั้งที่เลยวัยให้ลูกดูดนมไปแล้ว หารู้ไม่ว่าหัวกวาวเครือเอง มีข้อจำกัดในการกินมากมาย แถมยังมีหลากหลายสายพันธุ์

ปัจจุบันกวาวเครือไม่มีการปลูก ต้องเอามาจากป่าเท่านั้น อย่างไรก็ไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในขณะนี้ได้ ประชาชนก็อาจจะได้กวาวเครือปลอมปน เผลอๆ ปนยาแผนปัจจุบัน อันตรายจะตายไป อย่าเสี่ยงดีกว่า

ที่จริงแล้วความแก่หรือไม่แก่มันอยู่ที่ใจ ถ้าจิตใจแจ่มใสกี่ปีผ่านไปก็ดูไม่แก่ จิตใจจะแจ่มใสได้ นอกจากจะทำใจให้เบิกบานแล้วร่างกายต้องแข็งแรงกระปรี้กระเปร่าด้วย คงจะยากถ้าร่างกายเจ็บออดๆ แอดๆ สามวันดี สี่วันไข้แล้ว จิตใจจะยังสดใสอยู่ การออกกำลังกาย การกินอาหารที่ถูกต้องจึงมีส่วนเสริมสุขภาพกายและจิตเป็นอย่างมาก


เมนูอาหารของคนวัยทองมีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่หาได้ง่ายกว่ากวาวเครือมากนักคือ ไชเท้า ซึ่งเป็นผักที่สามารถซื้อหาได้ด้วยตัวเองไม่ต้องถูกใครต้ม

ไชเท้า มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Raphanus sativus Linn. อยู่ในวงศ์ Crutiferae เป็นสมุนไพรที่มีอยู่ในตำรายาจีน (หรือแม้แต่ของฝรั่งก็ใช้สมุนไพรตระกูลเดียวกันในสรรพคุณเช่นนี้สมุนไพรที่ว่าคือ Horseradish) โดยแนะนำให้คนวัยทองนำหัวไชเท้าดิบมาหั่นซอยเป็นเส้นฝอยกินวันละประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ หรือมื้อละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 2 ครั้ง (ถ้ารู้สึกมีกลิ่นฉุนอาจรับประทานร่วมกับน้ำผึ้ง)

โดยเชื่อว่าจะทำให้ผิวพรรณสดใสมีน้ำมีนวล ดูเปล่งปลั่งเหมือนคนหนุ่มสาว ทั้งยังเชื่อว่าหัวไชเท้าช่วยกำจัดพิษ สามารถช่วยให้ปัสสาวะใส ไม่ขุ่น ช่วยชำระล้างผนังกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยย่อย และช่วยทำให้หายใจโล่งขึ้น

หัวไชเท้าหรือผักกาดหัวมีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน (เจ้าถิ่นที่ยังยืนหยัดเป็นหลักให้กับ เอเซียทั้งทางด้านการแพทย์ตะวันออกและค่าเงินหยวน) แต่ตอนหลังหัวไชเท้าก็แพร่หลายไปทั่วตามการอพยพย้ายถิ่นของคนจีน นิยมรับประทานเป็นอาหาร ใช้ทำเป็นแกงจืด แกงส้ม ต้มจับฉ่าย หรือเอามาดองเค็ม ตากแห้ง ทำเป็นหัวไชโป๊ แล้วนำมาปรุงเป็นอาหารกินกับข้าวต้มกุ๊ยได้อีกหลายๆ ตำรับ

ที่สำคัญคือเจ้าหัวไชเท้านี่มีสารโปรวิตามินเอ ที่จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเออยู่สูงมาก หัวไชเท้าจึงเป็นแหล่งวิตามินเอที่หาง่ายและราคาถูก

หัวไชเท้าเป็นอาหารที่ดีมาก ตำราจีนกล่าวว่าไชเท้ามีสรรพคุณในการกระจายสิ่งหมักหมมในร่างกาย ละลายเสมหะ แก้พิษ ลดความดัน ขยายหลอดลมและหลอดเลือด จึงควรเป็นอาหารที่อยู่ในเมนูของคนที่ป่วยเป็นโรคหวัด ไอเสียงแหบแห้ง ท้องขึ้นเนื่องจากอาหารไม่ย่อย คออักเสบเรื้อรัง

ตำรับยามีดังนี้ นำหัวไชเท้าสดมาคั้นน้ำแล้วเติมน้ำขิง เติมน้ำตาลทรายขาวพอหวาน ต้มให้เดือดแล้วจิบบ่อยๆ หรือนำหัวไชเท้ามาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ต้มน้ำดื่มแก้กระหาย รวมทั้งสามารถนำหัวไชเท้าสดมาตำให้แหลก คั้นเอาแต่น้ำ เติมน้ำตาลทรายพอหวานรับประทาน

หรือนำไชเท้าหนึ่งหัวมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ไว้ในขวดแก้ว โรยน้ำตาล 2-3 ช้อนโต๊ะ ปิดฝาทิ้งไว้หนึ่งคืน รินน้ำรับประทานเป็นประจำ เหมาะกับคนที่เป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไอมีเสมหะ ไอหอบ

การทำเมนูอาหารบำรุงสุขภาพด้วยตัวเองจากสมุนไพรที่เรารู้จักเป็นอย่างดี รู้แน่ๆ ว่าไม่เป็นพิษเป็นภัย เป็นสิ่งที่คุ้มกว่าการไปตะเกียกตะกายหาสมุนไพรที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น เชื่อตามนักวิชาการที่บางทีก็ครึ่งๆ กลางๆ ในความรู้ ไม่รู้ทั้งแผนโบราณและแผนใหม่ ทำให้สังคมสับสนอลเวงไปหมด

1 ความคิดเห็น: