บทความที่ได้รับความนิยม

วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สมุนไพรยาอายุวัฒนะ


สมุนไพรยาอายุวัฒนะ
บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียดในจำนวนว่านยาทั้งหมด มีพืชอยู่ชนิดหนึ่ง ที่ท่านขุนพันธ์ ท่านใช้รับประทานเป็นยาอายุวัฒนะ ทุกมื้อ ทุกวันโดยท่านขุนพันธ์ ยืนยัน ก่อนเสียชีวิตว่า ยานี้ทำให้ท่านมีกำลังวังชา มีสุขภาพดี และมีอายุยินยาว นับร้อยปีต้นไม้ชนิดนี้คือ
ต้นกระพังโหม หรือบางทีเรียกว่า พังโหม หรือ ย่านพาโหม คนภาคกลาง เรียกชื่อพิศดารออกไป โดยเรียกว่าต้น ตูดหมู ตูดหมา หรือตดหมูตดหมาและไหนๆ พังโหม หรือตดหมูตดหมา ก็ได้ชื่อว่าเป็นยา อายุวัฒนะ ที่ทำให้ท่านขุนพันธ์ มีอายุยืนถึง108ปี เราลองมาศึกษารายละเอียด ของพืชชนิดนี้กันสักหน่อยกระพังโหม เป็นไม้เถา ใบยาวเรียง อาศัยเกาะต้นไม้อื่นๆอยู่ มีกลิ่นเหม็นเนื่องจากมีสาร Methgl-Meraptan หรือสารระเหยชนิดหนึ่ง หากจะให้กลิ่นเบาบางลง จะต้องนำไปผ่านความร้อนหรือต้มกระพังโหม
ขยายพันธ์ โดยเมล็ด เจริญงอกงามได้ทั่วไป เลี้ยงง่าย ปลูกง่ายในเกือบทุกดินฟ้าอากาศ เจริญเติบโตตลอด ทุกฤดูกาลท่านขุนพันธ์ไปไหน ท่านก็จะนำไปปลูกที่นั่น ประโยชน์ของกระพังโหม มีสารพัดคนไทยใช้รับประทานเป็นผักสด จิ้มน้ำพริก หรือไตปลาคนอินเดีย
ใช้ผสมลงในน้ำแกง น้ำซุป ใช้เป็นอาหารของคนชรา คนพักฟื้นชาวปักใต้ ชอบกิน กับข้าวยำสรรพคุณทางยา เป็นยา อายุวัฒนะ ใช้ป้องกันรักษา โรคสารพัดอย่างแก้ไตพิการ ท้องเสีย ตัวร้อน เป็นไข้ นอกจากนี้ยังเป็นยาแก้พิษงู ถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อยแก้โรค ตามืด ตามัว ตาฟาง และตานขโมยท่านขุนพันธ์
ได้รับรองสรรพคุณของ กระพังโหม ว่าได้ผลล้านเปอร์เซ็นต์ ในการใช้เป็นยาอายุวัฒนะ และไม่มีผลข้างเคียงด้วยโดยขุนพันธ์จะรับประทานกระพังโหม วันละ7ใบ โดยมีเคล็ดลับ ในการรับประทานดังนี้1″ ควรปลูกเอง2″ ต้องเก็บกระพังโหม
ตามฤกษ์ยามที่ดี (ให้ถูกตามตำราว่าน)3″เวลาเก็บ ต้องว่าคาถา ตามกำลังวันที่เก็บ เช่นเก็บวันพฤหัส เก็บเป็นกำลัง19เป็นต้น4″เวลาเก็บ ต้องหันหน้าไปตามทิศมงคล ของวันนั้นๆ5″ ขออนุญาตจากเทพเทวดา และพระแม่ธรณีเสียก่อนเขียนเรื่องเล่าเรื่องกระพังโหม มาถึงขนาดนี้แล้ว ประเทศไทยก็ควรจะไปจดลิขสิทธิ์ หรือ สิทธิบัตรได้แล้ว ไม่เช่นนั้น อาจจะเหมือน กวาวเครือ และ ข้าวหอมมะลิ รวมถึงวิชาโยคะ ที่กำลังจะถูกญี่ปุ่น และอเมริกา ขโมยไปอีก
ที่มา http://atcloud.com/stories/67875

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น